เงินไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต แต่มันเป็นสิ่งที่คุณต้องมี
เงินไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต แต่มันเป็นสิ่งที่คุณต้องมี
"Money is not everything in life. But it is something you must have. เงินไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต แต่มันเป็นสิ่งที่คุณต้องมี"
เงินไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต
อย่างที่ผมบอกไปในหัวข้อนะครับ คุณเคยคิดไหมว่าเกิดมาเพื่อที่จะทำงานเเลกกับเงินจริงหรือ? คุณอาจจะโดนปลูกฝังตอนเด็กเหมือนกับผมก็ได้ ที่ตั้งเเต่เราเกิดมาจนเข้าโรงเรียนพ่อเเม่ของผมจะบอกเสมอว่า ให้ตั้งใจเรียนให้เก่ง จบไปทำงานดีๆ จะได้มีปัญญาเลี้ยงตัวเอง และพ่อเเม่
แต่ไม่มีญาติหรือใครคนไหนมาบอกกับผมเลยว่า จบไปเราจะได้งานดีๆจริงหรอ?
คุณเคยคิดไหมว่า ถ้าทุกคนโดนปลูกฝังแบบเดียวกันก็ตั้งเป้าหมายที่ว่าไปเป็นลูกจ้างคนอื่นเค้า และจะมีใครมาทำหรือกล้าเปิดกิจการที่ตัวเองชอบจริงๆละ
ถ้าคุณจะเกิดมาเพื่อทำงานหาเงินผมว่าคุณคงต้องหามันไปทั้งชีวิตของคุณ
จริงอยู่ครับบางคนอาจจะมีฐานะยากจน เเต่คุณเลือกที่จะเป็นได้อย่างที่คุณอยากจะเป็นนะครับ ลองหาสิ่งที่คุณอยากจะให้มันเป็นจริง และคุณตั้งเป้าหมายไว้เเละทำมัน ผมเชื่อว่าหลายคนที่ตั้งใจเรียนเพราะยากจะได้ทำงานที่ดีๆ มีเงินที่จะซื้อบ้าน รถ ซื้อสิ่งต่างๆที่เราอยากได้ แต่มันจำเป็นด้วยหรอว่าต้องเรียนเก่ง
โรงเรียนสอนเเค่วิชาที่เรานำมาใช้ในชีวิตจริงได้บางส่วนเท่านั้น เเต่ไม่มีใครสอนวิชาชีวิตกับคุณจริงๆหรอก คุณนั้นเเหละต้องลองด้วยตัวคุณเอง ประสบการณ์เท่านั้นที่จะเป็นวิชาที่สำคัญที่สุกในชีวิตจริง
ถ้าคุณคิดที่จะให้เงินทำงานให้กับเราละก็คุณก็จะมีสิทธิ์ทำอะไรได้อย่างมีความสุข ทำอะไรได้อย่างที่เราอยากจะทำ ธุรกิจส่วนตัวเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง เสี่ยงที่จะรวยกับเสี่ยงที่จะล้มเหลว แต่ความล้มเหลวถ้าคุณคิดว่ามันเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จ คุณนั้นเเหละที่เป็นคนประสบความสำเร็จเเล้ว
แนวคิดที่ผมเขียนให้ท่านอ่านอาจจะเป็นเเนวคิดที่ท่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตามนี่คือ เเนวคิดที่ผมอยากจะให้ท่านอ่านเเละเลือกสิ่งที่ดีไปใช้นะครับ ^^
วิธีออมของผมง่ายๆ เพิ่มรายได้ลดรายจ่ายรายได้ - รายจ่าย = เงินออมเงินออม - ลงทุน = เงินเก็บ
การที่เรากล้าที่จะลงทุนนั้นคือคุณกล้าจะก้าวไปของหน้า
ถ้าคุณคิดว่าเดินอีกไกลเเค่ไหนจะถึงปลายทางเเห่งความสำเร็จ ให้คุณมองย้อนไป เส้นทางที่คุณก้าวมานั้นมันมาไกลเเค่ไหนเเล้ว คนที่คิดจะหาวิธีให้เงินทำงานคือคนที่ต้องการจะก้าวหน้าเเละมั่นคงในการเงิน
ขอบคุณ: พระธนวรรธน์ แซ่เจน
แสดงความคิดเห็น